วันที่ 26 เมษายน 2560 บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) (AEONTS) ผู้นำด้านสินเชื่อรายย่อยรายงานผลประกอบการประจำปี สิ้นสุดงวดบัญชี วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัทฯ มีรายได้ 17,759 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 2,403 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรต่อหุ้น 9.61 บาทต่อหุ้น และสำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2559 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 836 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 จากปีก่อน เป็นผลจากการที่บริษัทฯ มีการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินให้ยังคงอยู่ในระดับตํ่าอยู่อย่างต่อเนื่อง และการลดลงของหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ อีกทั้ง ในไตรมาสนี้บริษัทฯ มีการบันทึกกำไรจากการขายลูกหนี้ที่ตัดจำหน่ายแล้วที่รับรู้เป็นรายได้จำนวน 346 ล้านบาท
รายได้รวมในปี 2559 มีจำนวน 17,759 ล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ 2 จากปีก่อน โดยรายได้ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากสินเชื่อบัตรเครดิตร้อยละ 37 รายได้จากสินเชื่อเงินกู้ร้อยละ 51 รายได้จากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ร้อยละ 2 และ รายได้อื่นๆ อีกร้อยละ 10 ตามลำดับ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายรวมจำนวน 14,737 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากปีก่อน ส่งผลให้บริษัทฯ บันทึกกำไรสุทธิเป็น จำนวน 2,403 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 2 จากปีก่อน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้มีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับความไม่แน่นอนในเรื่องของภาวะเศรษฐกิจ และภัยธรรมชาติ
การขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยปี 2559 ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนหน้า โดยปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากการใช้จ่ายภาครัฐ รายได้ภาคการเกษตรและภาคการส่งออกที่ฟื้นตัวขึ้น อีกทั้ง การใช้จ่ายภาคครัวเรือนปรับตัวดีขึ้น ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายและการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีของภาครัฐ ในปี 2559 บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการร่วมเป็นพันธมิตรกับคู่ค้าชั้นนำทางธุรกิจที่มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มสัดส่วนสมาชิกบัตรเครดิต ได้แก่ การออกบัตรเครดิต AEON M Gen Visa และบัตรเครดิตอิออน รอยัล ออร์คิด พลัส เจซีบี แพลทินัม และจัดแคมเปญการตลาดที่หลากหลายอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกค้าบัตรอิออน อาทิเช่น แคมเปญ AEON Happy Plan เปลี่ยนยอดการใช้จ่ายเป็นโปรแกรมแบ่งชำระรายเดือน สูงสุดถึง 10 เดือน แคมเปญ AEON Gift 2017 ลงทะเบียนเพื่อแลกรับของกำนัลจากแบรนด์ชั้นนำ แคมเปญ AEON Shop Plus สำหรับลูกค้าบัตรเครดิต เพื่อแลกของสมนาคุณเมื่อมียอดใช้จ่ายครบตามที่กำหนด นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทฯได้ร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดตัวบริการเบิกถอนเงินสดสำหรับผู้ถือบัตรสมาชิกอิออนยัวร์แคชผ่านเครื่องเอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์กว่า 10,000 เครื่อง ทั่วประเทศ ทำให้สมาชิกบัตรอิออนสามารถเบิกถอนเงินสดได้หลากหลายช่องทาง โดยลูกค้าสามารถเบิกถอนเงินสดได้ที่ตู้ของอิออน และตู้ ATM ของธนาคารอื่นๆ อีกทั้งลูกค้ายังสามารถเบิกถอนเงินสดผ่านทางเคาน์เตอร์เซอร์วิสของ เซเว่น อีเลฟเว่น ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้นกว่า 60,000 แห่ง
ในปีบัญชี 2559 บริษัทฯ ได้เพิ่มจำนวนลูกค้าบัตรเครดิตใหม่กว่า 267,500 บัตร คิดเป็นการเติบโตร้อยละ 4 จากปีก่อน รวมจำนวนบัตรสมาชิกและบัตรเครดิตกว่า 7.81 ล้านบัตร สำหรับสาขาของบริษัท เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน จึงได้มีการปิดสาขาจำนวน 10 สาขา และเปิดใหม่ 1 สาขา ส่งผลให้ในปี 2559 บริษัทฯ มีสาขาทั้งสิ้น 111 สาขาทั่วประเทศ และมีห้องรับรองลูกค้าอีก 12 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตอิออนโกลด์ และแพลทินัม นอกจากนี้ยังมีเครื่องเบิกและชำระเงินสดอัตโนมัติ 469 เครื่อง และร้านค้าในเครือข่ายรวมกว่า 17,400 แห่ง เพื่อให้บริการทางการเงินแก่ผู้ถือบัตรอิออน
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 ในอัตราหุ้นละ 1.85 บาท โดยจะจ่ายภายหลังจากที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 มิถุนายน 2560 ซึ่งบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตรา 1.60 บาทต่อหุ้น เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 รวมเงินปันผลจ่ายสำหรับปีบัญชี 2559 จำนวน 3.45 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราปันผลจ่ายร้อยละ 35.9 โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 และให้รวบรวมรายชื่อตาม ม. 225 ของ พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 16 พฤษภาคม 2560 ตามลำดับ